ชุดตัดแก๊ส เดอะซัน รุ่น 62-5F รูปทรงยอดนิยม แก๊สแอลพีจี ด้ามจับทองเหลือง มาพร้อมกับวาว์ลกันย้อน

THE SUN ชุดตัดแก๊ส เครื่องมือคุณภาพที่มืออาชีพเลือกใช้ ด้วยด้ามจับทองเหลือง มีวาล์วกันย้อนปลอดภัย มีความแข็งแรงสูง ทนต่อความร้อนได้ดี

ชุดตัดแก๊ส คือ??

THE SUN ชุดตัดแก๊ส เป็นชุดตัดแก๊ส ที่ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย มีการควบคุมมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน จึงมั่นใจได้ว่าเป็นสินค้าดี มีคุณภาพ ทนต่องานหนักได้ดี สามารถตัดเหล็กได้หนาถึง 300 มิลลิเมตร ใช้งานง่าย มีขนาดกะทัดรัด จับถนัดมือ และยังเปลี่ยนอะไหล่ภายในชุดตัดแก๊สได้สะดวกเมื่อเกิดการชำรุด สามารถใช้ได้ทั้งแก๊สแอลพีจี และ แก๊สอะเซทิลีน เพียงแค่เปลี่ยนหัวตัดแก๊สเท่านั้น

THE SUN ชุดตัดแก๊ส ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย มาพร้อมกับวาว์ลกันย้อน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ด้ามจับทองเหลือง ไม่ร้อน กระชับ จับแน่น หัววาล์วปรับเร่งไฟ แข็งแรง ทนทาน สามารถติดตั้งได้ตามต้องการ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

จุดเด่น

• THE SUN ชุดตัดแก๊ส ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน รูปแบบยอดนิยม ทนทานต่องานหนักได้ดี
• ด้ามจับทำจากทองเหลืองที่มีคุณภาพ เป็นลายริ้วกระชับมือ
• มีขนาดกะทัดรัด เปลี่ยนอะไหล่ภายในชุดตัดแก๊สได้สะดวก ใช้งานง่าย สำหรับช่างมืออาชีพ

รายละเอียด

• ปลายหัวตัดทำมุม 90 องศา วาล์วปรับทองเหลือง
• ใช้ได้ทั้งแก๊สแอลพีจี และ แก๊สอะเซทิลีน
• สามารถตัดเหล็กได้หนาถึง 300 มิลลิเมตร
• ด้ามกดทำจากทองเหลือง ที่มีคุณภาพ
• ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมอย่างดี มีความแข็งแรงสูง ทนต่อความร้อน 
• มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุดพร้อมใช้งาน คุ้มค่า คุ้มราคา เหมาะสำหรับช่างมืออาชีพ

วิธีการใช้งาน

• ใช้สำหรับตัดชิ้นงาน เช่น เหล็ก โลหะ หัวตัดได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้แนวตัดของชิ้นงาน ออกมาสวย

การบำรุงรักษาและข้อควรระวัง

• ควรตรวจเช็คก่อนใช้งานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
• เมื่อให้งานเสร็จควรทำความสะอาดทุกครั้งเพื่อยืดอายุการใช้งาน
• ควรใช้งานอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย

คำเตือน

• นมหนูที่ไม่มีคุณภาพจะละลายง่าย เกิดการอุดตันขึ้น ทำให้เกิดไฟย้อนและระเบิดที่หัวตัดและด้ามตัดได้

คุณสมบัติ

สินค้าภายในกล่อง

สะดวกช็อปหลากหลายช่องทาง คลิกเลยที่นี่ !!!

ข้อมูลเพิ่มเติม

การตัดโลหะ ด้วยแก๊สออกซิเจนถือเป็นความรู้ใหม่ สำหรับใครหลายคน เพราะมีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งโดยปกติการตัดโลหะโดยทั่วไป จะนำวัสดุที่ใช้ตัดโดยเฉพาะ ซึ่งมีความแข็งแรงสูง แต่การตัดเหล็กด้วยการใช้แก๊สออกซิเจนในการตัดนั้น ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ มาดูกันว่าการตัดเหล็กโดยวิธีนี้ มีหลักการทำงานอย่างไร

การตัดโลหะด้วยแก๊ส เป็นกระบวนการที่อาศัยเปลวไฟจากหัวตัด ซึ่งเกิดจากการผสมระหว่างแก๊สออกซิเจน กับแก๊สเชื้อเพลิง ด้วยเปลวนิวทรัล เผาโลหะชิ้นงานให้ร้อนแดง อุณหภูมิประมาณ 800-900 C เกิดสันดาปของออกซิเจนกับเหล็ก เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ปริมาณของออกซิเจนที่ถูกส่งออกมา ผ่านหัวตัดที่มีความดันสูง จะเป็นการเร่งทำให้เกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น ทำให้โลหะเหล็กเกิดเป็นเหล็กออกไซด์ และหลุดร่วงออกจากบริเวณที่เกิดปฏิกิริยา เป็นรอยตัดดังกล่าว วิธีการตัดด้วยแก๊ส สามารถตัดด้วยมือ (Manual) และตัดด้วยเครื่องตัด ที่สามารถตัดได้ทั้งแนวตรง วงกลม และท่อ

การเชื่อมแก๊ส คือ กรรมวิธีหลอมโลหะให้ละลายติดกัน ด้วยการเชื่อมไฟฟ้าหรือแก๊สก็ได้ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ การเชื่อมแก๊ส จะใช้ชุดตัดแก๊สพ่นแก๊สใส่ลวดเชื่อม ให้ร้อนจนหลอมละลายติดกันกับตัวโลหะที่ต้องการ ซึ่งแก๊สที่นิยมใช้กันคือ แก๊สอะเซทิลีนกับออกซิเจน ซึ่งแก๊สพวกนี้จะถูกอัดสำเร็จรูปไว้ในถังเก็บและมีวิธีการเตรียมดังนี้

การเตรียมแก๊สออกซิเจน เป็นแก๊สที่ช่วยทำให้ติดไฟ ซึ่งแก๊สออกซิเจนจะถูกเก็บไว้ในถังเหมือนเก็บแก๊สหุงต้ม และต้องวางถังออกซิเจนให้ตรงอย่าวางนอน อีกทั้งห้ามถ่ายเทจากถังหนึงไปถังหนึง

หลักการทำงาน

• OFC จะใช้หัวตัดที่มีลักษณะเป็นคอขวด โดยหัวตัดนั้นจะทำหน้าที่ให้ความร้อนเพื่ออุ่นชิ้นงาน โดยการใช้เปลวไฟจากส่วนผสมของแก๊สเชื้อเพลิงและออกซิเจน จนทำให้วัสดุที่กำลังตัดอยู่นั้นเกิดการหลอมเหลว แล้วจึงทำการเป่าวัสดุที่หลอมเหลวออกไป
• Kerf ในกระบวนการ OC ขนาดความกว้างของส่วนของเนื้อโลหะที่ถูกตัดออกไปจะถูกเรียกว่า Kerf ซึ่งใช้เป็นตัวระบุคุณภาพของการตัดซึ่งจะประกอบไปด้วยขนาด และความคมของขอบที่ถูกตัด ซึ่งขบวนการของ OFC ความกว้างของ Kerf จะขึ้นอยู่กับขนาดของออกซิเจน ชนิดปลายหัวตัดที่ใช้ ความเร็วในการตัด อัตราการไหลของออกซิเจน และชนิดของแก๊สเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับชิ้นงานที่มีความหนาเพิ่มมากขึ้น ก็จำเป็นต้องใช้การไหลของออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และต้องใช้ปลายหัวตัดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อทำให้สามารถรับอัตราการไหลที่เพิ่มมากขึ้นได้ จึงส่งผลทำให้ความกว้างของ Kerf เพิ่มมากขึ้นตาม โดยค่าความกว้างของ Kerf เป็นค่าที่ต้องระบุในแบบต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว สำหรับที่มีความหนามากถึง 50 m ต้องให้เพิ่มขึ้นได้ (+0.4 mm)
• Drag ในการปรับหัวพารามิเตอร์ที่หัวตัด จนกระทั่งลำของออกซิเจน เริ่มทะลุจากด้านบนจนออกที่ด้านล่างของ Kerf จะเรียกตำแหน่งดังกล่าวว่า Zero Drag ซึ่งตำแหน่งนี้จะเริ่มทำการเคลื่อนหัวตัดเพื่อทำการตัดโลหะ ซึ่งหากทำการเพิ่มความเร็วในการตัดหรือลดอัตราการไหลของออกซิเจน จะทำให้ปริมาณของออกซิเจนที่เข้าไปทำปฏิกิริยาในบริเวณดังกล่าวลดลง จึงทำให้พื้นที่ด้านล่างของแผ่นโลหะขาดช้ากว่าด้านบน อันเกิดจากปฏิกิริยาในบริเวณดังกล่าวมีค่าต่ำ ดังนั้นจะทำให้เห็นลำของออกซิเจนที่ทะลุออกมาด้านล่าง อยู่ในแนวเยื้องกับด้านบน หรือเกิดตามหลังในทิศทางของการตัด ซึ่งจะเรียกระยะเยื้องดังกล่าวว่า Drag ในรูปเปอร์เซ็นต์ของความหนาของชิ้นงานที่ถูกตัด เช่น Drag 10% หมายถึงแนวตัดชิ้นงานที่สมบูรณ์ที่ด้านล่างมีระยะห่างจากด้านบนตามแนวทิศทางการตัด 10% ของขนาดความหนาของชิ้นงาน

ปัจจัยที่ใช้ในการเลือกใช้เชื้อเพลิง

• เวลาที่ใช้ในการให้ความร้อน
• ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความเร็วในการตัด รวมถึงรูปร่างและการกัดเซาะ
• ผลกระทบต่อชิ้นงาน
• ค่าใช้จ่ายหน่วยของเชื้อเพลิง
• ความปลอดภัยในการใช้งานและการเก็บรักษา

การตัดโลหะด้วยออกซิเจนนั้น จะทำให้โลหะที่ถูกตัด นั้นมีพื้นผิวที่เรียบมากขึ้น แต่คุณภาพของการตัดจะขึ้นอยู่กับความเร็ว และปริมาณของออกซิเจนเป็นหลัก ซึ่งหากอยากได้งานที่มีคุณภาพสูง จำเป็นต้องใช้ความเร็ว และออกซิเจนให้สัมพันธ์กัน